ปัญหาและแนวทางการป้องกันความรุนแรงในสังคม
ปัญหาความรุนแรงมีจุดเริ่มต้นมาจากความขัดแย้ง ความรุนแรงในสังคมเกิดจากการมีผู้ก่อความรุนแรง ซึ่งมีจำนวนไม่ากนัก แต่ผู้ได้รับผลกระทบหรือเหยื่อของความรุนแรงเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ต้องถูกทำร้ายมีเป็นจำนวนมาก
ความขัดแย้งในระดับพื้นฐานเกิดขึ้นภายในครอบครัว เมื่อพ่อแม่มีความขัดแย้งกัน ผลกระทบอาจตกอยู่ที่ลูก หากเป็นวัยรุ่นจะทำให้เกิดความไม่มั่นคงในอารมณ์ ขาดการยอมรับตนเอง ถ้าสามารถปรับตัวได้ก็จะผ่านพ้นความขัดแย้งไปได้โดยวิธีการประนีประนอม แต่ถ้าวัยรุ่นมีความขัดแย้งที่รุนแรงและยาวนาน จะพัฒนาเป็นความรุนแรงในสังคมต่อไป
1.สาเหตุของการเกิดความรุนแรงในสังคมและผลกระทบต่อบุคคล ครอบครัวและสังคม
1.1สาเหตุของการเกิดความรุนแรงในสังคม
ความรุนแรงในสังคม เช่น การลักทรัพย์ การระบาดของสิ่งเสพย์ติด ซึ่งได้แพร่เข้าไปตามโรงเรียน หรือการมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง เป็นต้น
การเกิดความรุนแรงในสังคม มีสาเหตุดังนี้
1.ความขัดแย้งของประชาชนในเรื่องสิทธิมนุษย์ชน ด้านมนุษยธรรมและความเป็นพลเมือง
2.การนำเสนอเรื่องที่ใช้ความรุนแรงจากสื่อมวลชน เช่น โทรทัศน์ ภาพยนตร์ อินเทอร์เน็ต ซึ่งสื่อที่กล่าวมาล้วนมีส่วนกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงในสังคมได้
3.รูปแบบของการพนัน เช่น สลากกินแบ่ง(หวยบนดิน) บ่อน การพนัน ฟุตบอลและมวย เป็นต้น ซึ่งก่อให้เกิดความรุนแรง ได้แก่ การอยากรวยโดยไม่ต้องประกอบอาชีพ และการแสวงหาความสนุก เพลิดเพลินโดยปราศจากความสำนึกผิดชอบ
4.มีพฤติกรรมก้าวร้าว พฤติกรรมความรุนแรง
5.มีพฤติกรรมต่อต้านสังคม การทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย โดยมีการกระทำผิดต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น
6.พฤติกรรมการเล่นพนันฟุตบอลของเด็กและเยาวชน
7.พฤติกรรมการใช้สารเสพติด และการหนีโรงเรียน
8.พฤติกรรมการยกพวกตีกันของนักศึกษาระหว่างสถาบัน
9.อาชญากรรม สงครามและการก่อการร้าย
10.ธุรกิจการค้าบริการทางเพศ ปัญหาโสเภณีเด็ก
11.การค้าสารเสพติด
12.การก่ออาชญากรรมทางเพศ ข่มขืนแล้วทำร้ายจนเสียชีวิต
สาเหตุของการเกิดความรุนแรงในสังคมมีมากมายหลายรูปแบบ แต่ในที่นี้ขออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการก่อการร้าย เพราะเป็นสาเหตุของการเกิดความรุนแรงในสังคมที่มีผลกระทบต่อคนในหลายประเทศ โดยมีผู้ถูกกระทำหรือเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายต้องบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
การก่อการร้าย
การก่อการร้ายเป็นการใช้กำลัง การใช้ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆเพื่อกดดันทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยกลุ่มบุคคลหรือองค์กรที่ถูกจัดตั้งขึ้นมา เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายหลักทางการเมืองในลักษณะของการต่อต้าน โค่นล้ม กุมอำนาจ หรือต่อรองอำนาจของรัฐกับรัฐบาลเพื่อปลดปล่อยกลุ่มของตนหรืออื่นๆให้เป็นอิสระจากอำนาจ อิทธิพล การปกครองของรัฐอื่น
การก่อการร้ายเป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อน มีพัฒนาการที่เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น โดยขยายตัวเป็นการก่อการร้ายสากล ทำให้ทุกประเทศมีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามที่มาจากการก่อการร้าย นับเป็นความรุนแรงในสังคมที่น่ากลัวและอันตรายเป็นอันดับหนึ่ง
ตัวอย่างการก่อการร้ายทั้งในระดับโลก ระดับภูมิภาคและในระดับประเทศ
-การก่อการร้ายในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2544
-การวางระเบิดที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2545
-การวางระเบิดที่กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 15 และ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2546
การก่อการร้ายเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการขยายขอบเขตที่กว้างขวางและอัตราความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของการก่อการร้ายทั่วโลก
1.2ผลกระทบของความรุนแรงในสังคม
ผลกระทบของความรุนแรงในสังคมที่เกิดต่อบุคคล ครอบครัว และสังคม มีดังนี้
1.ผลกระทบต่อบุคคล
1.)ถูกทำร้ายร่างกายทำให้เกิดการบาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิต
2.)สภาพของจิตใจถูกกระทบกระเทือน มีความวิตกกังวล ซึมเศร้า เหม่อลอย ขาดสมาธิ
3.)เกิดความสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
4.)เกิดการเลียนแบบผู้กระทำความรุนแรง
5.)มีพฤติกรรมต่อต้านสังคม
2.ผลกระทบต่อครอบครัว
1.)ครอบครัวแตกแยก มีปัญหาความสัมพันธ์ภายในครอบครัว เกิดการเป็นหม้าย หรือกำพร้าขาดบิดามารดา
2.)เกิดความยากจนและว่างงาน เพราะบิดามารดาต้องหยุดงานหือไม่มีงานทำ ทำให้ครอบครัวขาดรายได้
3.ผลกระทบต่อสังคม
1.)สังคมเดือดร้อน เกิดความหวาดระแวง ขาดความสงบสุข ประเทศขาดความมั่นคงและความปลอดภัย
2.)สิ่งแวดล้อมในสังคมไม่ปลอดภัย มีปัญหาอาชญากรรม การจลาจล การลอบทำร้าย การก่อการร้าย โดนลูกหลง เป็นต้น
3.)เกิดความรุนแรงในโรงเรียน เพราะอิทธิพลจากสื่อมวลชน อินเทอร์เน็ตและเกมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ความรุนแรง
4.)มีปัญหาเศรษฐกิจ รวมทั้งมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ
2.แนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันปัญหาความรุนแรงในสังคม
การป้องกันปัญหาความรุนแรงในสังคมเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของประชาชนทุกคนในสังคม ทั้งหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนชุมชนด้วย โดยมีแนวทางปฏิบัติดังนี้
1.ระดับบุคคล
1.)รู้จักใช้เวลาว่างในทางสร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก จะช่วยให้ไม่ไปรวมกลุ่มสร้างปัญหาพฤติกรรมความรุนแรงต่างๆในสังคม
2.)รู้จักยั้งคิด มีการยับยั้งตนเองไม่เป็นผู้ก่อการความรุนแรงให้แก่สังคม
3.)การฝึกเพื่อเสริมสร้างจิตลักษณะในการป้องกันพฤติกรรมทะเลาะวิวาท
4.)การส่งเสริมการอยู่ร่วมกันโดยสงบสุข ถ้อยทีถ้อยอาศัย มีความเอื้ออาทร ไว้วางใจซึ่งกันและกัน
2.ระดับชุมชน
1.)จัดการคุ้มครองความปลอดภัยแก่สตรี เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส
2.)ออกกฎหมายควบคุมการพกพาและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง
3.)จัดกำลังเพื่อต่อสู้กับอาชญากรรม
4.)ป้องกันการค้าอาวุธ การทุจริตคอรัปชั่น และการค้าที่ผิดกฎหมาย
5.)มีระบบปรึกษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนอย่างเข้มแข็ง
3.สรุป
ปัญหาความรุนแรงในสังคมเป็นปัญหาสากลมีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในหลายประเทศ เช่น ปัญหาการก่อการร้าย ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ สภาพสังคมและเศรษฐกิจ เสรีภาพการเดินทางระหว่างประเทศและความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้นการเรียนรู้ถึงแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันปัญหาความรุนแรงในสังคม จึงต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกคน เพื่อลดโอกาสและความเป็นไปได้ในการก่อการร้าย อันจะนำมาซึ่งปัญหาความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้น ชีวิตทุกคนในสังคมจึงจะปลอดภัยจากภัยก่อการร้ายสากล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น